“มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้ที่ 1 “…”ผมเกือบจะร้องไห้เลยครับ มันเหมือนกับว่าผมได้รับการยอมรับแล้วในตลอด 4 ปีที่ผ่านมา”
“ถ้าผมไม่ได้แสดงในเรื่อง Avengers Social Club ผมก็คงไม่ได้อันดับสูงขนาดนี้ ผมอยากจะขอบคุณซูกยอม”
(NOTE:อันดับนี้ประกาศไปตอนท้ายรายการวันที่ 16 ธค 2017)
ในตอนที่เริ่มถ่ายทำ The Unit ตารางงานของเขาชนกันทำให้เขาไม่สามารถที่จะถ่ายทำได้มากสักเท่าไหร่ และไม่สามารถทำการแสดงได้เต็มที่เพราะเวลาที่ไม่เพียงพอ เหนือสิ่งอื่นใด อีจุนยองรู้สึก “ขอโทษ” “ผมไม่สามารถที่จะอยู่กับเพื่อนร่วมทีมได้ตลอดผ ลที่ออกมาก็ไม่ดีที่สุด มีเวลาน้อยนิดที่จะเตรียมตัว และตรวจเช็คอะไรต่างๆ กับเพื่อนร่วมทีม ประสิทธิภาพในการแสดงผมก็ไม่ดีด้วย ต้องโทษตัวเองคนเดียวเลยครับ”
จุนก็กังวลในเรื่องที่ว่าเขาจะได้รับความรักมากเหมือนกับชีวิตจริงของเขาที่เขาแสดงให้เห็นในรายการเซอร์ไววัลไหม “เพราะในนั้นผมไม่ได้แกล้งแสดงเลยครับ มันคือตัวตนที่แท้จริงของผม แม้ผมจะเป็นคนมีความทะเยอะทะยานสูง แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกไม่มั่นใจและสงสัยตัวเองว่าทำได้ดีแล้วหรือยัง”
เขาไม่ได้คิดว่ารายการนี้คือการแข่งขัน “เพราะเราทุกคนต่างก็สนิทกัน เหมือนกับว่าพวกเราคือทีมเดียวกัน บรรยากาศโดยรวมคือทุกคนพยายามทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด”
อีจุนยองรู้สึก ‘สิ้นหวัง’ เวลาที่เขาต้องมาแข่งขันกับทุกคน “เราทุกคนต่างก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเป้าหมายในใจ ไม่มีใครหรอกครับที่ไม่พยายาม อดหลับอดนอน ฝึกซ้อมจนดึก บางคนเข้าถึงวิสัยทัศน์ บางคนมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกหัด ผมได้เรียนรู้มากมายจากสิ่งเหล่านี้ ทั้งรายคนและทุกคนพวกเขาสุดยอดมากครับ”
อีจุนยองได้เรียนรู้อะไรมากมายใน The Unit แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของรายการได้อย่างเต็มตัวในตอนเริ่มแรก “ผมภูมิในนะครับที่วงของเราทำได้ดี แต่การที่ได้รับการยอมรับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยพวกเรา โดยบริษัท และโดยแฟนๆ เท่านั้น ยังมีหนทางจาก The Unit ที่ช่วยแสดงมันให้สาธารณะชนได้เห็นครับ”
“ไม่มีทางที่ผมจะไม่คิดถึง UKISS ครับ ถ้าไม่มีวงผมก็คงมาไม่ถึงจุดที่ผมอยู่ตอนนี้ ผมก็คงไม่ได้เข้ามาในรายการ The Unit เช่นเดียวกับซูกยอม คงจะมีชื่อนี้ไม่ได้ถ้าผมไม่ได้ชื่อ ‘UKISS จุน’ ผมขอบคุณมากนะครับ ที่ผมได้รับสิ่งเหล่านี้ก็เพราะพวกพี่ๆ ครับ ผมจะตั้งใจทำงานและจะสร้างความเข้มแข็งและใส่ความเข้มแข็งนี้ให้กับ UKISS ครับ”
“ผมอยากให้พวกเราเป็นที่รู้จักผ่านบทเพลงอื่นๆ มากขึ้นแทนที่จะเป็นแค่เพลง ManManHaNi ยังมีหลายคนที่คิดว่า UKISS นั้นร้องเพลงไม่ได้ แต่ที่จริงแล้วเราร้องเพลงกันได้ดีครับ พวกพี่ๆจะครบรอบ 10 ปีในปีหน้า(2018)แล้วครับ และพวกเขาก็ทำงานกันหนักมากกว่าที่ผมทำอีก ผมตระหนักถึงเรื่องนี้มากครับ มันเยี่ยมแค่ไหนที่มีความรักมากมายส่งมาถึง UKISS และนั่นทำให้เราใส่ความพยายามในบทเพลงของพวกเราอยู่เสมอ”
“มันไม่เพียงแค่มุมมองของพวกเรา ในมุมของคนอื่นเราทำงานหนัก นั่นแหละครับ ไม่มีวงไหนที่ไม่พยายามกันอย่างหนักหรอกครับ แต่เราเองก็พยายามกันอย่างหนักเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเทียบกันแล้ว สายตาของสาธารณะชนที่มองมานั้นมันต่างกันครับ”
เขาทั้งแร็พเก่ง เต้นเก่ง และร้องเพลงก็เก่ง และเขาก็ยังมีทักษะด้านการแสดง เราจึงถามเขาถึงเคล็ดลับที่เขาเก่งทุกด้านแบบนี้ เขาตอบเราว่า “มันไม่มีอะไรเลยครับนอกจากการจดจ่ออยู่กับมัน ผมโฟกัสอยู่กับสิ่งที่ควร ผมก็ไม่คิดว่าผมทำมันได้ดีหรอกนะครับ ยังมีอีกหลายๆ คนที่ก็ทำมันได้เหมือนกัน ที่เห็นว่าผมทำได้ดีก็คงเป็เพราะทุกคนมองมันว่าดีครับ”
ในท้ายสุด เราถามถึงเป้าหมายของอีจุนยองในอนาคต “ในฐานะ UKISS จุน รวมไปถึงอีจุนยองด้วย ผมอยากเป็นที่รู้จักให้มากขึ้นและถูกพูดถึงในฐานะที่เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ความสามารถรอบด้าน”
Source: THE STAR
English Trans: @lovablejun97
Thai Trans: Jun Young Club