Rate this book

Beauty And The Duke (2009)

by Melody Thomas(Favorite Author)

3.41 of 5 Votes: 1

ISBN

0061472670 (ISBN13: 9780061472671)

languge

English

genre

Romance

publisher

Avon

series

Mystical Bliss

review 1: หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุด Magical Bliss แต่ไม่ต้องคิดอะไรมากนะคะเพราะสิ่งที่เชื่อมแต่ละเล่มเข้าไว้ด้วยกันก็คือ แหวนที่เชื่อกันว่า สามารถมอบสิ่งที่ผู้สวมต้องการมากที่สุดให้ได้ ดังนั้นแม็กซ์จึงไม่แน่ใจว่า เล่มที่สองในชุดจะมีความเกี่ยวข้องกับเล่มนี้มากน้อยเพียงใด อาจจะเป็�... more��เรื่องของตัวละครรองในเล่มนี้ (แต่แม็กซ์ก็ยังไม่เห็นแววใครโดดเด่นชัดเจน แต่อาจจะเป็นน้องสาวพระเอกก็ได้) หรืออาจเป็นเรื่องของคนอื่นไปเลยก็ได้ (เพียงแต่คนนั้นได้แหวนไป)แต่เห็นพูดเกี่ยวกับแหวนที่ให้พรวิเศษได้ แฟนพารานอมอลก็ไม่ต้องดีใจมากนะคะ เพราะเรื่องนี้แทบไม่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติเลยด้วยซ้ำ กระทั่งเรื่องแหวนก็ยังถูกอธิบายว่า เป็นเรื่องบังเอิญ (โดยทุกคนยกเว้นนางเอกที่เชื่อ) เมื่อสิบปีก่อนคริสตีนตกหลุมรักอีริค บอร์ทตัน ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นดยุคแห่งเซจวิกค์ผู้ร่ำรวย แต่เพราะเขาเป็นคนเดียวที่เข้าใจเธอ คริสตีนไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปในยุคนั้น เธอไม่ได้ต้องการเป็นแค่ภรรยาผู้เพียบพร้อม แต่เธอต้องการมากกว่านั้น และหัวใจของเธอก็แตกสลายเมื่ออีริคเลือกที่จะหมั้นหมายกับญาติของเธอ เขาเลือกหญิงสาวที่เพียบพร้อม และสำหรับคริสตีน นั่นเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด และเธอก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันสิบปีผ่านไป คริสตีนซึ่งบัดนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไดโนเสาร์ (ในช่วงนั้นเป็นยุคแรก ๆ ที่เพิ่งขุดพบกระดูกไดโนเสาร์) แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับการยอมรับอย่างที่หวัง แต่มันก็มากที่สุดแล้วสำหรับผู้หญิงในยุควิคทอเรียน ในค่ำคืนงานเลี้ยงที่คริสตีนต้องผิดหวังทั้งกับหน้าที่การงานที่เธอหวังว่า ตัวเองจะได้รับการประกาศให้เป็นผู้นำคณะสำรวจไปที่เมืองเพิร์ธ และชายผู้ที่เธอคิดว่าเหมาะสมจะขอเธอแต่งงาน คริสตีนไม่สมหวังทั้งสองเรื่อง ชายผู้ที่เธอหวังจะขอเธอแต่งงานได้รับแต่งตั้งไปทำงานที่เธอหวัง และเขาขอเพื่อนสนิทของเธอแต่งงาน คริสตีนได้พบกับอีริคอีกครั้งมันเป็นเวลาสิบปีนับจากที่เขาได้พบกับคริสตีน อีริคแต่งงานไปสองครั้ง และเสียภรรยาคนแรกไปด้วยโรคระบาด คนที่สองที่หายตัวไปนานถึงเจ็ดปี เป็นครั้งแรกที่เขามีอิสระที่จะมองหาภรรยาคนที่สาม และอีริคก็ตั้งใจว่าจะให้ครั้งนี้เป็นคริสตีน หญิงสาวที่หลุดมือเขาไปในครั้งแรกอย่างที่บอกนะคะ เมโลดี้ โธมัสไม่ใช่นักเขียนที่ใช้สูตรสำเร็จในการเขียนหนังสือ พล็อตเรื่องของเธออาจจะไม่แปลกใหม่ แต่แม็กซ์บอกได้เลยว่า คุณไม่อาจคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในหน้าต่อไปได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่แม็กซ์อ่านหนังสือของเธอ (เรื่อง Must have been a moonlight) จากประสบการณ์ที่อ่านโรแมนซ์มานาน แม็กซ์คิดว่าตัวเองเดาเรื่องได้แล้ว แต่มันก็ไม่ใช่อย่างที่คิดแต่ไม่ใช่ว่าเมโลดี้จะเขียนเรื่องที่ทำให้คนอ่านช็อคนะคะ เพียงแต่มันไม่คาดว่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างในเรื่องนี้ แม็กซ์ไม่คิดว่าอีริคจะขอคริสตีนแต่งงานตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่เขาก็ทำ โดยเอากระดูกไดโนเสาร์ที่ค้นพบที่ดินแดนของเขามาล่อ เขารู้ว่าคริสตีนต้องการพิสูจน์ตัวเองต่อนักวิชาการคนอื่นมากเพียงใด เขายื่นข้อเสนอ และเธอก็ตอบตกลง มันควรจะเป็นการแต่งงานเพื่อความสะดวกของทั้งสองฝ่าย อีริคต้องการทายาท คริสตีนต้องการชื่อเสียงในฐานะผู้ค้นพบไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่แต่นี่คือหนังสือโรแมนซ์ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แค่นั้น อดีตของทั้งคู่ยังตามหลอกหลอนเอกลักษณ์อีกอย่างของเมโลดี้ที่แม็กซ์ชอบในงานเขียนของเธอก็คือ วิธีการเล่าเรื่อง เมโลดี้จะไม่เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา อดีตระหว่างอีริคและคริสตีนไม่ได้ถูกเล่าอย่างชัดเจน เราเข้าใจนะคะ สำหรับนักอ่านบางคนอาจจะรู้สึกว่า มันน่ารำคาญ เราก็เคยรู้สึกเช่นนั้นกับนักเขียนคนอื่น แต่เราชอบสไตล์ที่เมโลดี้ใช้ เธอไม่ได้บอกตรง ๆ ว่า ใครเป็นฝ่ายผิดในการเลิกลากันไป แต่คนอ่านจะเข้าใจได้ว่า แท้จริงแล้วอีริคขอคริสตีนแต่งงานกับผู้เป็นบิดาของเธอ แต่ถูกปฏิเสธ เขาเข้าใจว่าคริสตีนไม่ต้องการเขา สุดท้ายเขาจึงเลือกที่จะหันไปหาญาติของเธอแทน ในขณะที่คริสตีนคิดว่า เขาไม่ได้รักเธอมากพอที่จะมองข้ามความไม่เหมาะสมบอกอย่างนี้ก็โปรดอย่าเข้าใจว่า นี่เป็นพล็อตที่ใช้ความเข้าใจผิดระหว่างพระเอกและนางเอกมาเป็นประเด็นหลักนะ คะ เพราะมันก็ไม่ใช่เช่นกัน เราถึงบอกไงคะว่า งานของเมโลดี้คาดเดาเรื่องได้ยากโดยรวมหนังสือเล่มนี้ไม่ทำให้แม็กซ์ผิดหวังนะคะ มันอาจจะไม่ใช่หนังสือที่สนุกมาก ๆ ถึงขนาดที่แม็กซ์ยกให้อยู่ในระดับเยี่ยมยอด แต่ก็คุ้มค่าเงินที่ซื้อมาค่ะคะแนนที่ 67
review 2: Another winner from Melody---this book is definitely 4 and 1/2 stars. What kept it from being a 5 star is there wasn't quite enough interaction between H/h in the first third of the book and though the dialogue between the two was witty there wasn't quite enough of it. Oh, but Erik could almost (I said, almost) rival Michael from It Must Have Been the Moonlight (who is my all time fav hero). She sure knows how to write a hero. less

Download links for: Beauty and the Duke

Advertising